เทคนิคการจองทัวร์ให้ได้ราคาถูก

ทัวร์มีถูกมีแพง เราไม่พูดถึงการลดคุณภาพเพื่อให้ได้ราคาถูก แต่เป็นการวางแผนซื้อทัวร์ไปเที่ยวอย่างไร หรือมีปัจจัยควรพิจารณาอะไรบ้าง เพื่อให้จ่ายได้ในราคาถูกลง ลองตามมาดูกันเลยครับ

1. รู้จังหวะการจอง

ช่วงเวลาในการเที่ยวมักแบ่งเป็น ก. ไฮซีซัน ข. โลว์ซีซัน ถ้าเป็นช่วงไฮ ควรรีบจองล่วงหน้า 2-3 เดือน เพราะทัวร์จะเต็มเร็ว การได้ไปเที่ยวสำคัญกว่าราคาถูก การจองแต่เนิ่นๆ มีโอกาสเลือกของดีมากกว่า แต่หากเป็นช่วงโลว์ สามารถรอได้เพราะเต็มช้า หรือไม่เต็ม แถมช่วงใกล้ๆ อาจมีโปรโมชั่นทำให้ได้ราคาถูกลง การรีบจองในช่วงโลว์อาจเจอสถานการณ์ปิดกรุ๊ปไม่ลง มีการยกเลิกทำให้อดไป

2. เลี่ยงช่วงพีคของ "ที่เที่ยว"

ไม่ปฏิเสธว่าบางสถานที่เมื่อเป็นช่วงพีคจะมีความน่าเที่ยวเป็นพิเศษ ซึ่งใครๆ ก็อยากไปช่วงพีค เช่นญี่ปุ่นช่วงซากุระ อะไรๆ ก็แพงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปกติ ถ้าจำเป็นต้องไปช่วงพีคก็ควรใช้เทคนิคข้อที่แล้ว นั่นคือจองแต่เนิ่นๆ แต่หากไม่ยึดติด ก็จะเที่ยวในราคาถูกกว่า และมีข้อดีอื่นคือผู้คนไม่เบียดเสียดเท่า ่เราจะได้สัมผัสสถานที่เที่ยวอย่างที่มันเป็นจริงๆ เหมือนได้เจอสาวที่งามอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่วันที่แต่งหน้ามาจัดๆ

3. เลี่ยงช่วงพีคของ "คนเที่ยว"

ใครๆ ก็แห่กันไปเที่ยวช่วงสงกรานต์ หรือช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคม แต่ถ้าเราบริหารจัดการวันลาได้ ควรเลี่ยงช่วงเหล่านั้น โดยขยับเพียงเล็กน้อยไม่ให้ชนกับชาวบ้าน ราคาก็จะต่ำลงมาก แล้วยังได้การบริการที่ดีกว่าด้วย นอกจากนี้ ในบางสถานที่เที่ยว ช่วงเวลาที่สวยงามน่าเที่ยวที่สุดก็ไม่ได้ตรงกับฤดูท่องเที่ยวของบ้านเรา เช่นยุโรปอากาศในเดือนพฤษภาคมจะสบายกว่าเดือนเมษายน ท้องฟ้าสดใสกว่า หรือที่ญี่ปุ่นจะมีดอกพิงค์มอสส์ออก หรือหากไปเที่ยวไอซ์แลนด์ ช่วงหน้าหนาวที่มีแสงเหนือคือช่วงโลว์ซีซันของที่นั่น ราคาจะถูกลงด้วยซ้ำ

4. เลือกสายการบิน "มวยรอง"

ต้นทุนหลักของทัวร์มาจากตั๋วเครื่องบิน ยิ่งทัวร์ที่จำนวนวันน้อยๆ น้ำหนักยิ่งลงที่ราคาตั๋วเครื่องบิน สายการบินที่มีโอกาสเสนอราคาถูกให้บริษัททัวร์มักจะหนีไม่พ้น (1) โลว์คอสต์ (2) ที่นั่งล้น เพราะใช้เครื่องลำใหญ่หรือบินถี่ๆ (3) ตารางบินที่ไม่สะดวกนัก ลูกค้าไม่นิยม 

จะเห็นว่าการเดินทางไปยุโรปด้วยสายการบินตะวันออกกลาง ที่แข่งกันหลัก 3 สาย มีเที่ยวบินต่อวันมาก แม้จะเป็นระดับ 4-5 ดาว แต่ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องครึ่งทาง ราคาจึงประหยัดกว่าใช้สายการบินของยุโรปเห็นๆ หรือสายโลวตอสต์ที่แข่งกันบินเส้นหลักอย่างโตเกียว โซล ก็จะบี้กันเรื่องราคา ทำให้ได้ทัวร์ที่ราคาถูก ทั้งที่ความสะดวกเมื่อเทียบกับสายปกติต่างกันไม่สักเท่าไหร่ เราจึงสามารถได้ทัวร์ที่องค์ประกอบอื่นหรูเหมือนกัน แต่เพราะใช้สายการบินแบบนี้ราคาโดยรวมก็จะถูกกว่ามาก

อยากจ่ายถูกกว่า เลือกโลว์คอสต์หรือเที่ยวบินที่ตารางไม่สะดวกมาก แม้คุณภาพของเก้าอี้ การบริการจะไม่ต่างกัน

5. จำนวนมื้ออาหาร วันอิสระ

ราคาขายสะท้อนต้นทุน ปัจจุบันทัวร์หลายรายการจะมีวันอิสระ หรือมื้ออาหารที่ไม่รวม หากลูกค้าพอจะมีประสบการณ์ในการเที่ยวด้วยตัวเองมาบ้าง ทางเลือกนี้ถือว่าตอบโจทย์เพราะราคาทัวร์ควรจะต่ำลง และเรามีโอกาสที่จะหาอาหารทานเองตามใจชอบ และมีช่วงอิสระของตัวเองที่จะไปไหนมาไหน ใช้เวลาในสิ่งที่ชอบได้ ถือเป็นทางเลือกที่ Win-Win แต่ถ้าไม่เคยเที่ยวเอง ไม่ควรเลือกแบบนี้เพราะนอกจากจะมึนงง หลงทางแล้ว เข้าร้านผิดอาจโดนฟันหัวแบะ

6. ความถี่ของการออกทัวร์

โปรแกรมทัวร์ที่มีวันเดินทางถี่ๆ วางเป็นซีรีส์ยาวไปหลายเดือน คือทัวร์ที่เหมาตั๋วเครื่องบินมาจำนวนมากๆ เพื่อให้ต้นทุนถูกลงแล้วมาขายในราคาต่ำกว่า หากเป็นสถานที่เที่ยวคล้ายๆ กัน ทัวร์แบบนี้จะราคาถูกกว่า แต่ก็ควรอ่านโปรแกรมทัวร์ให้ละเอียดว่าชะโงกกว่าไหม และเตรียมใจไว้ว่าขนาดของกรุ๊ปทัวร์มักจะใหญ่กว่าโปรแกรมที่จัดไม่กี่กรุ๊ป ความถี่ในการออกที่น้อยกว่า ซึ่งราคาสูงกว่า

7. รองานท่องเที่ยว

วิธียอดนิยมสำหรับคนจำนวนมากคือไปช็อปในงานท่องเที่ยว ซึ่งจัดปีละไม่กี่ครั้ง งานแบบนี้นอกจากจะมีผู้ขายมารวมตัวกันให้เราเลือกและเปรียบเทียบโปรแกรมทัวร์แล้ว ยังมักมีส่วนลดเพื่อดึงดูดให้เรารีบตัดสินใจ ส่วนลดที่ได้ก็ตั้งแต่หลักร้อยสำหรับทัวร์ราคาไม่กี่หมื่น ไปถึงหลัก 2-3,000 บาทหากเป็นทัวร์ราคาสูงเช่นหลักแสน แล้วยังมีลุ้นรางวัลใหญ่สำหรับโปรบัตรเครดิตหรืออื่นๆ

8. ปากมีไว้ต่อราคา

หากเป็นนอกช่วงที่มีงานท่องเที่ยว ลูกค้าสามารถใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการต่อราคากับผู้ขาย หากเป็นโปรแกรมทัวร์ "ส่งต่อ" ที่มีผู้ขายหลายราย โอกาสได้ส่วนลดจะมีสูงกว่าเพราะแต่ละรายก็อยากจะปิดการขายเพื่อให้ได้ลูกค้า ยิ่งถ้าเดินทางพร้อมกันหลายคนก็มีอำนาจต่อรองสูงกว่า การเช็คหลายแหล่งเพื่อเทียบส่วนลดคือวิธีหนึ่งเพราะบางบริษัทก็ไม่มีนโยบายส่วนลด

9. รู้นโยบายผู้ขาย

บางบริษัทมีนโยบายในการให้ส่วนลดของตัวเองอยู่แล้ว บ้างก็ลดให้กับลูกค้าเก่า บ้างก็ลดให้ทั้งหมดไม่ว่าจะเก่าหรือไม่ บ้างก็ไม่ลด บ้างก็จัดช่วงโปรโมชั่นระยะสั้น บ้างก็ลดถ้าถูกต่อหนักๆ หรืออยากจะขายมากเป็นพิเศษด้วยแรงจูงใจบางอย่าง การรู้นโยบายก็ช่วยให้มีโอกาสได้ส่วนลด อย่างเช่นบางรายยินดีลดให้ลูกค้าเก่า ถ้าเรารู้และเป็นลูกค้าเก่าเราก็มีสิทธิ์ได้ แต่ถ้าไม่ถามเขาอาจจะไม่บอก

10. โปรโมชั่นอื่นๆ

ช่วงหลังๆ จะเห็นสารพัดโปรโมชั่นออกมาโดยเฉพาะ "โปรไฟไหม้" ซึ่งต้องติดตามกันวันต่อวันอย่างใกล้ชิด หรือโปรบัตรเครดิตที่สามารถผ่อนได้โดยไม่ชาร์จ ช่วยให้แบ่งเบาภาระแถมได้คะแนนสะสม

ดูรายละเอียดโปรบัตรเครดิตพร้อมเทียบของแต่ละบริษัทได้เพิ่มเติมที่นี่
http://www.letsgotour.net/talk-detail.html?id=66
 

11. ขอแนะนำ "ส่วนลดสมาชิก"

ทั้งหมดที่เอ่ยมาข้างต้นคือเทคนิคซื้อทัวร์ในราคาถูกกว่า ซึ่งเกือบทั้งหมดคือการได้ส่วนลดแลกกับความสะดวก ความพอใจบางอย่างที่เสียไป แต่หากสมัครเป็นสมาชิก Team Let's Go ก็จะได้ส่วนลด "ทันที" แบบไม่มีเงื่อนไข เลือกทัวร์ที่ชอบ วันที่ใช่ เมื่อไหร่ก็ได้ (ตราบเท่าที่ยังมีที่ว่างให้จอง) ไม่ต้องรีบแพ๊คกระเป๋า ไม่ต้องเดินทางไปที่งานท่องเที่ยว แถมยังลดทุกโปรแกรม ทุกวันเกือบ 1,000 รายการ สูงสุด 1,000 บาท

สมัครเป็นสมาชิก Team Let's Go ได้ที่นี่ สมัครฟรี!

#ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #letsgo