The Michelin Guide Bangkok - ยางรถกับอาหาร มาเกี่ยวอะไรกัน



ผู้เขียน : แอดมิน น้อง T วันที่ 07 ธันวาคม 2560

เมื่อวานนี้ (6 ธันวาคม 2560) ถือเป็นประวัติศาสตร์แห่งวงการอาหารในประเทศไทยเมื่อ "มิชลิน" ประกาศชื่อสุดยอดร้านอาหารในกรุงเทพเป็นครั้งแรก ทำให้เมืองหลวงแห่งสยามกลายเป็นมหานครลำดับที่ 6 ของเอเซียที่ได้ถูกบรรจุเข้าทำเนียบไกด์ระดับโลกด้านอาหารที่ถือว่ามีความน่าเชื่อถือสูงสุดในวงการ รายชื่อที่ประกาศแน่นอนว่ามีเสียงตอบรับที่หลากหลาย แต่ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ลองมาดูความเป็นมาว่าแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับยางรถยนตร์มาเกี่ยวอะไรกับการจับเรตติ้งร้านอาหารกัน ดูรายชื่อร้านอาหารได้ที่นี่

ประวัติความเป็นมาของมิชลินไกด์

ตำนานของมิชลินเกิดจาก 2 พี่น้องชาวฝรั่งเศสจากเมือง Clermont-Ferrand ชื่อ Andre และ Edouard Michelin ตั้งบริษัทชื่อ Manufacture Michelin & Cie เมื่อปี 2441 (1898) ผลิตยางรถจักรยานแบบถอดได้ก่อน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มีข้อดีคือเมื่อแตกรั่วก็สามารถถอดเปลี่ยนได้เลย ต่อมาพัฒนาเป็นยางรถยนตร์ซึ่งได้สร้างสถิติวิ่งได้เร็วถึง 100 ก.ม.ต่อชั่วโมง

ส่วนเจ้า Mascot รูปเด็กอ้วนขาวที่เกิดจากยางเรียงซ้อนกันนั้น ไอเดียแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2437 (1894) ก่อนจะเปิดบริษัทเสียอีก แต่กลายมาเป็นตัวที่เราคุันเคยกันดีในปี 2441 (1898) ปีเดียวกับที่ก่อตั้งบริษัท และมีชื่อเรียกติดปากกันว่า "บิเบนดัม" (Bibendum)

แล้วยางรถมาเกี่ยวอะไรกับอาหาร? เนื่องจากในยุคต้นๆ ของบริษัท การเดินทางบนท้องถนนยังยากลำบาก อย่าว่าแต่ Google Map เลย ไม่มีป้ายชื่อถนนด้วยซ้ำ พี่น้องผู้ก่อตั้งจึงได้ริเริ่มผลิตคู่มือการใช้ถนนโดยระบุตำแหน่งของปัมพ์น้ำมัน ศูนย์ซ่อมรถยนตร์ ตลอดจนร้านอาหารและโรงแรมในปี 2443 (1900) จนกลายมาเป็นคู่มือ Michelin Guide

มิชลินสตาร์ (Michelin Star) 

การจัดเรตติ้งร้านอาหารด้วยระบบ "ดาว" ของมิชลินเริ่มต้นเมื่อปี 2469 (1926) เดิมทีเป็นเพียงการให้ดาว 5 ปีต่อมามีการเพิ่มแบบ 2 และ 3 ดาว และเร็วๆ นี้ในปี 2540 (1997) ได้เพิ่มหมวด Bib Gourmand และในปีนี้เองคือ 2560 (2017) ได้เพิ่มหมวด MICHELIN Plate เข้าไปอีกหนึ่ง ความหมายของดาวมีดังนี้

3 ดาว คือร้านอาหารที่อร่อยยอดเยี่ยมและโดดเด่น ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง (Worth a special journey)

2 ดาว คือร้านอาหารที่อร่อยพิเศษ คุ้มค่าแก่การขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม (Worth a detour)

1 ดาว คือร้านอาหารคุณภาพที่น่าลิ้มลอง (Worth a stop)

ส่วน "บิบ กูร์มองต์" (Bib Gourmand) คือเครื่องหมายอาหารคุณภาพดีในราคา "ย่อมเยาว์" (ย่อมในมุมของฝรั่งอะนะ เพราะหมายถึงไม่เกิน 1,000 บาทสำหรับ 3 คอร์ส ไม่รวมเครื่องดื่ม แต่สำหรับคนไทยนั่นคือแพง!)

ร้านไหนในกรุงเทพได้กี่ดาว ดูรายชื่อร้านอาหารได้ที่นี่ เห็นด้วยหรือไม่ มาคุยให้ฟังกันหน่อยนะครับ

 

LetsGo.co.th

 

< อ่านเรื่องถัดไป อ่านเรื่องก่อนหน้า >