20 ข้อดีของการเที่ยวช่วงโลว์ซีซัน

มีหลายเหตุผลที่ทำให้คนไม่นิยมเที่ยวนอกฤดูกาล (ตั้งแต่ Off-Peak Season จนถึง Low Seaason) นอกจากเรื่องของวันหยุดราชการแล้ว ยังมีเรื่องอากาศ ฝนตก ร้านค้าปิด เป็นต้น แต่ก็มีอีกอย่างน้อย 20 เหตุผลที่อยากเชิญชวนให้พิจารณาลองเที่ยวช่วงที่ไม่ใช่ไฮซีซันดูบ้าง ซึ่งสำหรับคนไทย ช่วงไฮหมายถึงโรงเรียนปิดเทอม สงกรานต์ ช่วงวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม ต้นเดือนธันวาคม และปลายปี 

1. ประหยัด ทั้งตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ทัวร์ เตรียมพบกับโปรโมชั่นทุกรูปแบบทั้งแนว Early Bird หรือ Buy 1 Get 1 Free หรือ Last Minute หรือเราอาจได้ใช้บริการสิ่งที่ดีขึ้น เช่นโรงแรม 5 ดาวในราคา 3 ดาวของช่วงไฮซีซัน
2. ใจเย็นได้ ไม่ต้องรีบจองเหมือนช่วงไฮซีซัน เผลอๆ ใกล้ๆ มีโปรฯ เก็บตกแนว Last Minute (ถ้าทัวร์ก็อย่างเช่นโปรไฟไหม้) ยิ่งถ้าเที่ยววันธรรมดา (Week Day) ยิ่งได้เปรียบ
3. ชิลล์ๆ ที่สนามบิน คิวไม่ยาว บอร์ดดิ้งก็ไม่ต้องยืนเข้าแถวนาน ใครใช้บริการห้องรับรองก่อนขึ้นเครื่องก็เลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ
4. ชิลล์ๆ ที่อื่นๆ เข้าคิวซื้อตั๋วที่ไหน ทั้งที่เที่ยว ตั๋วรถไฟ ก็ไม่ยาว ไม่รอนาน
5. ลุ้นฟลุ๊คที่นั่งบนเครื่องบิน เราอาจได้ที่นั่งข้างๆ เพิ่มไว้วางของ ท้าวแขน หรือกระทั่งได้นอนบนที่นั่งเรียงกัน 3 ตัว
6. ลุ้นฟลุ๊คอัพเกรดห้องพัก เพราะห้องว่าง โรงแรมอาจต้องการสร้างความประทับใจ โดยเฉพาะยุคนี้ยุคโซเชียล ได้โปรโมทห้องหรูฟรีก็ยังดี
7. ถ้าเที่ยวทัวร์ ได้เจอไกด์มืออาชีพจริง ต่างจากช่วงไฮ ไกด์อาจขาดตลาด ได้ตัวสำรองหรือมือใหม่มาบริการ
8. ยืดหยุ่น สำหรับผู้ที่ชอบเที่ยวแบบไม่วางแผนล่วงหน้าแบบเป๊ะ เที่ยวช่วงโลว์จะได้ความยืดหยุ่นมากขึ้น เปลี่ยนสลับเที่ยวบินมีความเป็นไปได้สูงกว่า หรือค่ำไหนนอนนั่นก็ไม่ค่อยมีปัญหา หากเป็นช่วงไฮอาจได้นอนข้างถนน
9. อากาศเป็นใจ บางประเทศ ช่วงที่อากาศเป็นใจที่สุดกลับเป็นช่วงหลุดพีค ยกตัวอย่างประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรอย่างอินโดนีเซีย ที่เจอฝนครึ่งปี ช่วงที่ปลอดฝนคือพฤษภาคมถึงกันยายน หากเราตัดช่วงกรกฎาคม และสิงหาคม ที่ชาติตะวันตกพักร้อนแห่แหนกันมา เรายังมีอีก 2-3 เดือนให้เที่ยวแบบสบายๆ
10. ธรรมชาติเป็นใจ บางครั้ง ช่วงที่ธรรมชาติสวยงามที่สุดคือก่อนหรือหลังช่วงไฮเพียงเล็กน้อย ยกตัวอย่างในยุโรป ดอกไม้ออกมากที่สุดคือพฤษภาคม แทนที่จะแห่กันไปในเดือนเมษายน หรือใบไม้เปลี่ยนสีในหลายประเทศพีคสุดช่วงต้นตุลาคม หรือปลายพฤศจิกายน ไม่จำเป็นต้องไปแออัดในช่วง 23 ตุลาคม
11. ฝึกทักษะในการถ่ายรูป หากเราไปเที่ยวถ่ายรูปในช่วงฤดูท่องเที่ยว ที่สภาพแวดล้อมเป็นใจ เราไม่ต้องใช้ความพยายามมากก็สามารถได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แต่ผลลัพธ์นั้นก็จะไม่หนีจาก 80% ที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่หากเราอยู่ในสภาวะที่อากาศไม่เอื้ออำนวย ฟ้ามืดครึ้ม ฝนตก หิมะตก ทำให้เราต้องตีโจทย์ใหม่ จินตนาการใหม่ว่าจะถ่ายทอดอารมณ์ของสิ่งที่เห็นออกมาเป็นภาพได้อย่างไร ซึ่งทุกสิ่งทุกสภาวะในอากาศล้วนแต่มีความงดงามในตัวมันเอง อยู่ที่เราสามารถมองเห็นและหยิบฉวยมันออกมาได้หรือไม่ ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ใช่แนวขวัญใจมหาชนแต่จะได้ความเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะสะท้อนทักษะมุมมองของตากล้องได้ชัดเจนมากขึ้น
12. ฉันรักน้องฝน เหตุผลหนึ่งที่เป็นจุดอ่อนของโลว์ซีซันคือเจอหน้าฝน จริงอยู่ว่าเวลาเที่ยวแล้วเจอฝนทำให้เกิดความไม่สะดวก หรือเสียเวลา แต่อีกด้านของเหรียญ หากเที่ยวในประเทศที่อากาศร้อน ฝนจะช่วยให้เย็นสบายขึ้น และอย่าลืมว่าฟ้าหลังฝนมักจะสวยงามเป็นพิเศษ ต้นไม้ใบหญ้าจะเขียวชอุ่ม แถมสายรุ้งให้อีก และหากใครตุนเสื้อผ้าอุปกรณ์สำหรับหน้าฝนไว้เยอะ นี่คือโอกาสที่จะได้นำออกมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า ดีกว่าเก็บไว้ในตู้ที่บ้าน
13. โลกนี้มีแต่เรา ช่วงโลว์ซีซันจะเปิดโอกาสให้เราถ่ายรูปที่ ไม่พลุกพล่านด้วยผู้คนได้อย่างสบายๆ ไร้แรงกดดันที่ต้องรีบหลีกทางให้คนอื่น เคยถูกเพื่อนถามไหมว่า “ทำไมในรูปไม่มีคนอื่นเลย?”
14. เมืองนอกหรือเมืองไทย? ไปเมืองนอกเหมือนอยู่เมืองนอกจริงๆ มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับคนในท้องถิ่นมากกว่า ไม่ใช่เหมือนไปเมืองจำลองที่รอบข้างพูดไทยกันหมด
15. ทานอาหารสบายๆ  (โดยเฉพาะร้านบุฟเฟต์ที่กรุ๊ปทัวร์ลง) บริการทั่วถึง ไม่ต้องรอนาน
16. ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ลิ้มลองอาหาร ผลไม้ ดอกไม้ สัมผัสพรรณไม้ เทศกาล ประเพณีท้องถิ่นเฉพาะฤดูกาลที่ไม่มีให้สัมผัสในช่วงไฮซีซัน อย่างเช่นประเทศญี่ปุ่น มีดอกไม้ประจำฤดูกาลที่สวยงามมากมาย นอกเหนือจากดอกซากุระหรือพิงค์มอส
17. ความสะอาด เคยไหม เที่ยวทะเลหรือสถานที่ใดๆ แล้วมีคนทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง ถ่ายรูปแล้วเหนื่อยตอน Photoshop หรือห้องน้ำที่เห็นแล้วยอมทนปวด หากนักท่องเที่ยวน้อย โอกาสของความสกปรกก็น้อย เจ้าหน้าที่ทำงานได้ทั่วถึงมากขึ้น ได้ภาพถ่ายภาพวิวแบบคลีนๆ
18. เที่ยวในที่ร่ม หากเป้าหมายของการท่องเที่ยวคือสถานที่ภายในร่ม เช่นพิพิธภัณฑ์ พระราชวัง การเที่ยวในช่วงอากาศไม่ดีอาจมีผลแค่ระหว่างเดินทาง แต่เมื่ออยู่ภายในสถานที่ อากาศไม่มีผล แถมยังได้ดื่มด่ำ พินิจพิเคราะห์งานศิลปะอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่มีใครเบียด
19. ตอบโจทย์ Slow Life อยากชิลล์ อยากแช่ อยากเล็งมุมกล้องนานๆ อยากเปลี่ยนท่าโพสต์ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ในมุมเดิม ไม่มีอะไรต้องรีบหรือถูกกดดัน ต้นทุนที่ถูกกว่า คนแก่งแย่งน้อยกว่า คิวสั้นกว่า เท่ากับเป็นการประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายและได้เวลาเพิ่ม จึงใช้เวลาดื่มด่ำกับสิ่งที่เป็นตัวตนของเราเองได้ล้ำลึกกว่าโดยไม่ต้องแคร์ใคร (ยกเว้นแช่นานจนเลยเวลาทำการของสถานที่เที่ยว)
20. โดดเด่นในโซเชียล เพราะคนส่วนใหญ่ทำงาน โพสต์เราจะโดดเด่นกว่าใคร  ไม่เหมือนช่วงสงกรานต์ ที่ Feed ขึ้นมามีแต่คนเที่ยวเมืองนอก ใครอยู่เมืองไทยคือแปลก

ใครมีข้อดีมากกว่านี้ ขอเชิญแชร์ความเห็นกันได้นะครับ