15 ที่เที่ยวอียิปต์ห้ามพลาด: เช็คลิสต์ทัวร์อียิปต์ โปรแกรมไหนพาไปครบบ้าง?
เมื่อพูดถึงประเทศอียิปต์ ภาพของพีระมิดยิ่งใหญ่ เทพเจ้าอันทรงพลัง และทะเลทรายสุดลึกลับ มักจะปรากฏขึ้นในจินตนาการของหลายๆ คน แต่ความจริงแล้ว อียิปต์มีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่หลากหลาย และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจ 15 จุดเช็คอินประเทศอียิปต์ห้ามพลาด ซึ่งโปรแกรมทัวร์อียิปต์มักจะพาไป...ไม่ครบ
เมืองกีซ่า (Giza)
1. พีระมิดแห่งกิซ่า (Giza Pyramids)
ไม่สามารถพูดถึงอียิปต์โดยไม่กล่าวถึงพีระมิดแห่งกิซ่า สถานที่ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ พีระมิดแห่งนี้เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ และเป็นที่ตั้งของมหาพีระมิดแห่งคูฟู (Khufu) ซึ่งเป็นพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มหาพีระมิดกีซา หรือ The Great Pyramid of Giza อายุกว่า 5,000 ปี ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นที่บรรจุพระบรมศพของพระศพของกษัตริย์อียิปต์โบราณ หรือ ฟาโรห์ พีระมิดของฟาโรห์ในยุคราชวงศ์ที่ 4 เรียงจากขวาไปซ้าย คือ
พีระมิดของฟาโรห์คูฟู (Khufu) เป็นพีระมิดที่สูงที่สุด เดิมมีความสูง 146 เมตร ปัจจุบันสูง 138 เมตร เพราะส่วนยอดได้พังทลายไปบ้างจึงทำให้เตี้ยลงกว่าเดิมเล็กน้อย ฟาโรห์คูฟูเป็นฟาโรห์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ที่ 4 (2589-2566 ก่อน ค.ศ.) เป็นผู้สร้างขึ้นเองเมื่อก่อนคริสตกาลประมาณ 25,800 ปี นับอายุจนถึงปัจจุบันก็กว่า 4,500 ปี ถือเป็นพีระมิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 20 ปีก่อสร้าง ด้วยหินปูนมากว่า 2.5 ล้านก้อน โดยแต่ละก้อนมีน้ำหนัก 2 ถึง 70 ตัน และกำลังแรงงานกว่าแสนคนตัดจากแท่งหินขนาดใหญ่มาก หินแต่ละก้อนวางชิดติดกันแบบแนบสนิทมาก แม้แต่กระดาษก็สอดไม่ผ่าน
ตรงกลาง คือ พีระมิดของฟาโรห์คาเฟร่ (Khafre) เดิมมีความสูง 143 เมตร ปัจจุบันสูง 136 เมตร ฟาโรห์คาเฟร่เป็นลูกชายของฟาโรห์คูฟู
ส่วนซ้ายสุดขนาดเล็กกว่าองค์อื่น คือ พีระมิดของฟาโรห์เมนคูเร (Menkaure) มีขนาดเล็กที่สุด มีความสูง 65 เมตร และมีพีระมิดของราชินีอีกสามหลัง ฟาโรห์เมนคูเร คือ ลูกชายของฟาโรห์คาเฟร่ และเป็นหลานของฟาโรห์คูฟู
2. สฟิงซ์ (Sphinx)
สฟิงซ์เป็นรูปสิงโตหมอบ แต่ศีรษะเป็นมนุษย์ส่วนใบหน้านี้เป็น ใบหน้าของพระเจ้าคีเฟรน ซึ่งได้รับการนับถือพระเจ้าแห่งพระอาทิตย์ สฟิงซ์นี้ถูกแกะสลักจากหินธรรมชาติขนาดใหญ่ สูงถึง 18 เมตร ยาว 73 เมตร
เมืองไคโร (Cairo)
เมืองหลวงของอียิปต์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความทันสมัยและประวัติศาสตร์ ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อียิปต์ (Egyptian Museum) ที่จัดแสดงสมบัติและศิลปะโบราณนับพันชิ้น รวมถึงห้องเก็บสมบัติของตุตันคาเมน
3. ป้อมปราการแห่งไคโร (Citadel)
ป้อมปราการแห่งไคโร หรือ ป้อมปราการแห่งศอลาฮุดดีน เป็นป้อมปราการสมัยอิสลามในยุคกลางในกรุงไคโร ประเทศ อียิปต์ สร้างโดย Salah ad-Din (Saladin) และเป็นที่ตั้งของรัฐบาลในอียิปต์และเป็นที่พำนักของผู้ปกครองมาเกือบ 700 ปีตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ถึงศตวรรษที่ 19 สถานที่ตั้งบนแหลมของเนินเขา Mokattam ใกล้ใจกลางกรุงไคโรมีตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ที่มองเห็นเมืองและเหนือเส้นขอบฟ้า ในปี 2519 ได้รับการประกาศโดยยูเนสโกให้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกไคโรแห่งประวัติศาสตร์ (อิสลาม)
4. สุเหร่าโมฮัมเหม็ดอาลี (Muhammad Ali Mosque)
หรืออีกชื่อคือ Alabaster Mosque เป็นมัสยิดที่ตั้งอยู่ในป้อมปราการแห่งไคโร สร้างโดย Muhammad Ali Pasha ระหว่างปี 1830 ถึง 1848 เป็นมัสยิดออตโตมันตั้งอยู่บนยอดของป้อมปราการ ซึ่งเป็นมัสยิดที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุดในไคโร
5. ตลาดข่าน เอล คารีรี่ (Khan El-Khalili)
ตลาดเก่าแก่ในกรุงไคโรที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย คุณสามารถหาซื้อสินค้าท้องถิ่น ของที่ระลึก เสื้อผ้า และเครื่องประดับที่สวยงามได้จากที่นี่ ตลาดนี้ยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มสไตล์อียิปต์ดั้งเดิม
เมืองเมมฟิส (Memphis)
เป็นเมืองหลวงเก่าแก่แห่งแรกในยุคอียิปต์โบราณกว่า 5,000 ปี เป็นเมืองได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่ามีความสำคัญในการรวมอียิปต์บน และอียิปต์ล่างให้เป็นหนึ่งเดียวโดยกษัตริย์เมนาปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 1
6. พีระมิดขั้นบันได (Step Pyramid) ที่ซัคคารา (Saqqara)
ปิรามิดขั้นบันไดเป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานโบราณของเชื้อพระวงศ์สมัยอียิปต์โบราณเป็นเดิมเมืองหลวงของราชอาณาจักรอียิปต์โบราณ ในบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของพีระมิดจำนวนหลายหลัง รวมถึงพีระมิดขั้นบันไดของฟาโรห์ดโจเซอร์ (Djoser) สร้างด้วยหินที่สมบูรณ์ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พีระมิดแห่งโจเซอร์ ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ที่สามแห่งอียิปต์ ซึ่งต่อมาพีรามิดนี้ได้เป็นต้นแบบพีรามิดในยุคต่อมา และบริเวณนี้ยังเป็นสุสานฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณจำนวนอีกสิบหกพระองค์ รวมถึงเจ้าพนักงานระดับสูงในสมัยโบราณได้สร้างอนุสาวรีย์พิธีศพส่วนตัวในสุสานแห่งนี้ตลอดช่วงสมัยการปกครองของฟาโรห์ และยังใช้เป็นที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนามานานกว่า 3,000 ปี ทั้งในสมัยปโตเลมีและโรมัน พีรามิดแห่งนี้เป็นต้นแบบของพีรามิดในยุคต่อมา
เมืองอเล็กซานเดรีย (Alexandria)
เมืองแห่งตำนานคลีโอพัตรา (Cleopatra) เป็นเมืองท่าเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม คุณสามารถเยี่ยมชมหอสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย (Bibliotheca Alexandrina) ซึ่งเป็นหอสมุดที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังมีพิพิธภัณฑ์แห่งอเล็กซานเดรียที่รวบรวมศิลปะและวัตถุโบราณมากมาย
เป็นเมืองสำคัญในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เดิมทีเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่ชื่อว่า ราคอนดาห์ เมื่อ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล จนเมื่อ 332 ปี ก่อนคริสตกาลหรือประมาณ 2,300 กว่าปีก่อนพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชมาพบ จึงให้มีการปรับปรุงขยายเมืองเพื่อเป็นเมืองหลวงและตั้งชื่อให้คล้องจองกับชื่อของพระองค์ เมืองอเล็กซานเดรียนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญในตำนานรักอันยิ่งใหญ่ของ ราชินีเลอโฉมชื่อก้องโลก พระนางคลีโอพัตรา และนายทหารโรมัน มาร์ค แอนโทนี และปัจจุบันเมืองนี้ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก
7. ป้อมปราการซิทาเดล Citadel
ในอดีตนั้นเป็นที่ตั้งของ ประภาคารฟาโรส ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ปัจจุบันเหลือเพียงส่วนที่เป็นฐานและได้มีรับการทะนุบำรุงต่อเติมจากสุลต่านเกย์ตเบย์ โดยรวบรวมซากเดิมบางส่วนเข้ามา พักผ่อนหย่อนใจกับการชมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงาม
8. เสาปอมเปย์ (Pompey's Pillar)
เป็นสิ่งสำคัญโบราณในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เป็นเสาแกรนิตสูง 27 เมตร ปอมเปย์ เป็นชื่อเพื่อนสนิทของ จูเลียส ซีซ่า ผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่งโรมัน ซึ่งภายหลังทั้งสองได้กลายเป็นศัตรูกันและปอมเปย์ได้หลบหนีมายังเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ และได้ถูกชาวอิยิปต์ฆ่าเสียชีวิต ปัจจุบันนี้เหลือเพียงแค่เสาโบราณแบบกรีก ตั้งอยู่อย่างโด่ดเด่น และสฟิงซ์อีกสองตัว
เมืองลักซอร์ (Luxor)
9. วิหารคาร์นัค (Karnak Temple)
เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัววิหารหลังเดียวมีเนื้อที่ถึง 60 เอเคอร์ ซึ่งใหญ่พอที่จะนำโบสถ์ขนาดใหญ่ของยุโรปไปวางได้ถึง 10 หลัง มหาวิหารแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในสมัยฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 เพื่อถวายแด่เทพอมอน-รา เมื่อกว่า 3,600 ปีมาแล้ว หลังจากนั้นฟาโรห์องค์ต่างๆ ก็เริ่มสร้างเพิ่มเติม ทำให้วิหารมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมาก แต่เห็นความยิ่งใหญ่ของวิหารแล้ว ขอให้ทุกท่านลองจินตนาการดูว่าชาวอียิปต์โบราณใช้วิธีใดในการขนย้ายเสา และหิน พร้อมทั้งการแกะสลักลวดลาย ซึ่งเมื่อท่านเห็นความสูงแล้วก็จะยิ่งทำให้นึกไม่ออกก็เป็นได้ ว่าเขาใช้วิธีทำอย่างไร
10. วิหารลักซอร์ (The Temple of Luxor)
สร้างถวายแก่เทพอมอนรา กษัตริย์แห่งเทพ เช่นกัน วิหารแห่งนี้ได้รับการบูรณะในปี ค.ศ. 1883 ภายในบริเวณวิหารประกอบด้วยซุ้มประตูขนาดใหญ่และรูปสลักหินแกรนิตขนาดมหึมาสลักเป็นรูปฟาโรห์รามเซสที่ 2 และมหาราชินีเนเฟอตารี ชมเสาโอบิลิสก์ เสาหินแกรนิตขนาดใหญ่ซึ่งแกะสลักด้วยอักษรอียิปต์โบราณ(เฮโรกริฟฟิค) เพื่อสรรเสริญเทพเจ้าอมอนรา ซึ่งท่านอาจจะได้เห็นเสาเช่นนี้อีกที่ ปลาซเดอลาทริออง (Place de la Triamph) เมืองปารีสประเทศฝรั่งเศส ภาพสลักที่วิหาร แห่งนี้ก็ถือได้ว่าน่าสนใจไม่น้อย เช่น ภาพขบวนนักรบเดินแถว ที่สลักอย่างแตกต่างกันว่าเป็นนักรบชนชาติใดบ้าง เห็นแล้วก็ชวนให้นึกถึงภาพสลักขบวนนักรบที่ปราสาทหินในเขมร (ที่ว่าของกลุ่มเสียมสยาม จะเดินแตกแถวกัน) นอกจากนั้น ด้านหน้าวิหารจะมีถนนสฟิงซ์หน้าแพะ (Sphinx Avenue) ยาว 3 กิโลเมตรใช้เป็นทางเชื่อมระหว่างวิหารลักซอร์กับวิหารคาร์นัค
11. หุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings)
เป็นที่ฝังพระศพของฟาโรห์ 63 พระองค์ ตั้งอยู่ที่เทือกเขาทีบัน อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ (West Bank) หรือ นครธีบส์ในสมัยอียิปต์โบราณ อดีตเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของคนตาย หรือ นครของผู้วายชนม์ (Necropolis of Thebes) เต็มไปด้วยกลุ่มโบราณสถานที่มีประวัติน่าพิศวง ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ท่านสามารถเลือกเข้าชมได้เพียง 3 สุสาน ด้านหน้าทางเข้าสุสานฟาโรห์บนยอดเขานั้นดูคล้ายปลายแหลมยอดพีระมิดเป็นการเลือกหวงซุ้ยในการฝั่งศพ ให้คล้ายว่าฝังอยู่ใต้พีระมิดสุสานเหล่านี้เป็นสุสานที่ถูกเลือกให้เป็นสุสานที่เก็บ มัมมี่และสมบัติของกษัตริย์ถึง 63 สุสาน แต่ละสุสานมีขนาดใหญ่เล็กต่างกัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาครองราชย์ สุสานเริ่มสร้างเมื่อฟาโรห์ครองราชย์ และปิดเมื่อฟาโรห์สิ้นพระชนม์ ภายในหลุมมีจิตรกรรมที่งดงามสีสดใสราวกับเพิ่งวาดเสร็จไม่นานนี้
เมืองอาบูซิมเบล (Abu Simbel)
วิหารอาบูซิมเบลเป็นวิหารที่สร้างขึ้นโดยฟาโรห์รามเสสที่ 2 ซึ่งถูกย้ายที่ตั้งขึ้นมาเนื่องจากการสร้างเขื่อนอัสวาน (Aswan Dam) วิหารนี้มีรูปปั้นขนาดใหญ่ของรามเสสที่ 2 ซึ่งสลักลงบนหินขนาดยักษ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
12. มหาวิหารอาบูซิมเบล (Abu Simbel Temples)
ประกอบด้วยวิหารใหญ่ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 และวิหารของเนเฟอร์ตารีซึ่งเป็นมเหสีที่รักของพระองค์ วิหารอาบูซิมเบลงดงามยิ่งใหญ่และมีชื่อก้องโลกเพราะเมื่อมีการสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ที่อัสวาน ทำให้วิหาร 17 แห่งจมอยู่ใต้น้ำจนองค์การยูเนสโก้ต้องมาช่วยยกให้และมหาวิหารอาบูซิมเบลก็ถูกยกขึ้นสูงจากพื้นดิน 65 เมตร ซึ่งเป็นงานที่ยากมากใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี สิ้นค่าใช้จ่าย 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในวิหารใหญ่มีห้องบูชาและมีรูปสลัก 4 องค์นั่งอยู่ หนึ่งในนั้นคือ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 พร้อมด้วยเทพเจ้าต่างๆ อีก 3 องค์ และทุกปี วันที่ 22 ก.พ. และวันที่ 22 ต.ค. ลำแสงแรกของพระอาทิตย์จะสาดส่องเข้าไปต้องรูปสลัก และว่ากันว่าวันที่ 22 ก.พ. ตรงกับวันประสูติของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ขณะที่วันที่ 22 ต.ค. ตรงกับวันขึ้นครองราชย์ของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงความเจริญทางวิทยาการทางการคำนวณของชาวอียิปต์โบราณ
เมืองอัสวาน (Aswan)
อัสวานเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์ เป็นที่ตั้งของเขื่อนอัสวาน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพลังงานขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
13. วิหารฟิเล (Philae Temple)
หรือวิหารไอซิส เป็นวิหารงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในอียิปต์ ตั้งอยู่บนเกาะ Aglika เป็นเกาะที่เงียบสงบสร้างเพื่ออุทิศให้เทพธิดาแห่งความรัก ชมเสาหินโอเบลิสก์แกะสลักจากหน้าผาซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ (The Unfinished Obelisk) เป็นแท่งหินมหึมาที่สกัดเกือบเสร็จแล้ว แต่มีรอยราวจึงทิ้งค้างไว้เช่นนั้น แท่งหินนี้เป็นของพระนางฮัทเชปซุท หากไม่แตกร้าวจะเป็นเสาโอเบลิสก์ที่สูง 41 เมตร หนัก 1,200 ตัน เสาโอเบลิสก์นี้เป็นอนุสาวรีย์ชนิดหนึ่งของอียิปต์โบราณสร้างเพื่อบูชาแด่เทพอามุน-ราหรือสุริยะเทพ
เมืองอื่นๆ
14. วิหารอีดฟู (Edfu Temple)
ได้รับการยกย่องว่าเป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด ตั้งอยู่ศูนย์กลางของบริเวณที่อยู่อาศัย สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าฮอรัส (Horus) มีเศียรเป็นเหยี่ยวเป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้ มองได้ไกลเหมือนตาเหยี่ยว อดีตวิหารถูกปกคลุมด้วยทรายเกือบถึงยอดตัวเสาและหัวเสาเป็นเวลานานหลาย ปี ค.ศ. 1860 มีการขนทราย ปรากฏว่าตัววิหารยังแข็งแรง แน่นหนา ขนาดของวิหารยาว 137 เมตร มีเสาใหญ่แบบไพรอนที่วัดได้ 79 เมตรตรงด้านหน้าและสูง 36 ม. วิหารนี้มีขนาดใหญ่และสวยงาม
15. แม่น้ำไนล์ (Nile River)
แม่น้ำไนล์ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของอียิปต์ และการล่องเรือในแม่น้ำไนล์เป็นประสบการณ์ที่ห้ามพลาด คุณสามารถเลือกเรือแฟลท (Felucca) เพื่อสัมผัสประสบการณ์แบบดั้งเดิม หรือเรือสำราญหรูหราเพื่อชมทิวทัศน์สองฝั่งน้ำ ที่นี่คุณจะได้พบกับทัศนียภาพของวิหารโบราณและวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังคงความเรียบง่าย
การเที่ยวอียิปต์ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ แต่ยังทำให้คุณได้เข้าใจถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ล้ำค่า การล่องเรือในแม่น้ำไนล์ยังเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงามของแม่น้ำไนล์
สนใจทัวร์อียิปต์ เดินทางปี 2567 แล้วตัดสินใจไม่ถูก? ชมคลิปเทียบสเปค 3 ทัวร์อียิปต์ราคาถูก ไม่เกิน 50,000 บาท เดินทางช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2567 คลิกที่นี่
ดูทัวร์อียิปต์ทั้งหมด คลิกที่นี่
เตรียมตัวให้พร้อมและเริ่มการผจญภัยที่น่าจดจำในดินแดนอียิปต์กันเถอะ!
Let's Go ชัวร์เรื่องเที่ยว เชี่ยวเรื่องทัวร์
#ทัวร์อียิปต์ #ทัวร์อียิปต์2567 #เที่ยวอียิปต์ #ที่เที่ยวอียิปต์ #อียิปต์
15 สถานที่เที่ยวไฮไลท์ ประเทศโมร็อกโก สายเที่ยวห้ามพลาดเช็คอิน
โมร็อกโก (Morocco) ชื่อประเทศที่อาจมีคนสับสนกับโมนาโก (Monaco) ที่อยู่ทางใต้ของประเทศฝรั่งเศส โมร๊อกโก หรือชื่อทางการว่าราชอาณาจักรโมร็อกโก ตั้งอยู่ตอนบนสุดของทวีปอาฟริกา ติดทะเลเมดิเตอเรเนียนและมหาสมุทรแอตแลนติก โมร็อกโกมีพื้นที่ประมาณ 710,850 ตารางกิโลเมตรและประชากรกว่า 35,276,786 คน แม้จะอยู่ในทวีปอาฟริกาและประชากรส่วนมากนับถือศาสนาอิสลาม แต่ด้วยแหล่งที่ตั้งอยู่ใกล้ทวีปยุโรป ห่างจากชายฝั่งตอนใต้ของประเทศสเปนเพียง 14 กิโลเมตรเศษ...