5 เรื่องควรรู้ก่อนเที่ยวมงเทรอซ์ เมืองรีสอร์ตหรูในสวิตเซอร์แลนด์

มงเทรอซ์ หรือมอนเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศเล็กๆ ริมทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) มักถูกมองเป็นเมืองทางผ่านสำหรับโปรแกรมทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ที่ตั้งใจไปเที่ยวเมืองเจนีวา (Geneva) เพื่อไปชมน้ำพุ Jet d"eau หรือไปเที่ยวเมืองโลซาน (Lausanne) เพื่อรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่มงเทรอซ์มีความสำคัญหลายด้านที่ควรให้เวลากับมันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะหากเป็นผู้รักเสียงดนตรี มาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

1. ปราสาทชิลยอง (Chateau de Chillon)

ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าในเรื่องปราสาท ประเทศในยุโรปที่ครองความโดดเด่นมักเป็นฝรั่งเศสหรืออังกฤษ หาใช่สวิตเซอร์แลนด์ แต่หากประเทศนี้จะมีปราสาทอันเป็นที่เชิดหน้าชูตาแข่งกับประเทศเพื่อนบ้านได้บ้าง ก็คือปราสาทชิลยองแห่งนี้ (อ่านชื่อแล้วอย่าคิดว่าเป็นสัญชาติเกาหลีเชียว) ความงามของมันไม่ใช่อยู่ที่ตัวอาคาร ซึ่งไม่ได้ใหญ่โตและออกจะเรียบง่าย แต่เป็นทำเลที่ตั้งราวกับศึกษาด้านฮวงจุ้ยมาอย่างดี เพราะหลังชนภูเขา หน้าติดทะเลสาบแสนสวย ทำให้มันดูโดดเด่นสวยงามเห็นได้แต่ไกล ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นที่พักอาศัยของดยุคแห่งซาวอยผู้ครองอำนาจเกือบสี่ศตวรรษ หากโปรแกรมทัวร์มีชื่อเมืองมงเทรอซ์อยู่ในโปรแกรม เกือบร้อยทั้งร้อยต้องพามาเที่ยวที่นี่เป็นอันดับแรก ส่วนผู้ที่เดินทางมาเที่ยวด้วยตัวเอง การเดินทางก็ง่ายมาก เพราะนั่งรถไฟต่อจากเมืองมงเทรอซ์อีกป้ายเดียว หรือทางเลือกแบบหรูๆ ก็คือนั่งเรือมาจากเมืองมงเทรอซ์ได้

2. เทศกาลดนตรีแจ๊ส (Montreux Jazz Festival)

หลายประเทศในยุโรปมีจัดเทศกาลดนตรีในหน้าร้อน แต่หนึ่งในงานที่โด่งดังจนเข้าขั้นตำนานก็คือที่นี่ ซึ่งนับจากอดีตจนปัจจุบัน มีศิลปินชื่อก้องโลกแวะเวียนมาขึ้นเวทีที่เมืองนี้มากมายจนน่าจะหาเวทีไหนทาบรัศมียาก ทั้ง Miles Davis, Ray Charles, Bill Evans, Nina Simone, Ella Fitzgerald หรือที่คนไทยรู้จักอย่างดีคือ George Benson กับชาวญี่ปุ่น Sadao Watanabe แต่หลังๆ ก็ไม่จำกัดเฉพาะดนตรีแจ๊ส เพราะศิลปินร๊อคหรือสาขาอื่นก็พากันไปแสดงที่นี่มากมาย อย่าง Eric Clapton, Gary Moore, Norah Jones, Phil Collins, Radiohead, Sting เป้นต้น

3. อนุสาวรีย์เฟรดดี เมอคิวรี (Freddie Mercury Monument)

หากคุณไม่รู้จักเฟรดดี ลองนึกถึงเพลง We Will Rock You หรือ We Are The Champions ที่มักจะกระหึ่มในการแข่งขันฟุตบอล 2 เพลงนี้เป็นของวง Queen จากอังกฤษที่ถือเป็นหนึ่งในตำนานเพลงร๊อคที่ยิ่งใหญ่ในยุค 70s เฟรดดี เมอคิวรีคือนักร้องนำที่มีลีลาการแสดงบนเวทีอันเร้าใจเป็นเอกลักษณ์ เขาหลงรักเมืองมงเทรอซ์จนย้ายสัมโนครัวมาที่นี่ และเมื่อไหร่ที่จะถึงคิวบันทึกเสียงก็จะเชิญชวนเพื่อนร่วมวงให้มาปักหลักที่นี่ในช่วงท้ายๆ ก่อนเขาจะเสียชีวิตในปี 1991 เพื่อเป็นเกียรติ์แก่ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ที่ผันตัวมาเป็นประชากรแห่งเมืองนี้ มงเทรอซ์จึงได้สร้างอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงเขาที่ริมทะเลสาบอันเป็นทำเลที่เป็นศูนย์กลางที่สุดของเมือง เราจะได้เห็นรูปปั้นของเฟรดดีหันหน้าเข้าสู่ทะเลสาบในลีลาที่แฟนๆ ติดตาเป็นอย่างดี หากคุณได้มีโอกาสมาเยือนเมืองนี้และได้เดินเล่นริมทะเลสาบ อย่าลืมแวะทักทายเฟรดดีเผื่อแฟนคลับทั่วโลกด้วยล่ะ

4. เพลง Smoke On The Water

ใครเป็นคอเพลงร๊อคที่อายุ 45 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะถ้าเป็นคนเล่นกีตาร์ จะต้องรู้จักเพลงนี้ของวง Deep Purple ที่เคยมาเปิดการแสดงที่กรุงเทพด้วยเมื่อนานมาแล้ว เพลงนี้คือหนึ่งในตำนานเพลงร๊อคขึ้นหิ้งตลอดกาลด้วยท่อนกีตาร์ขึ้นต้นที่ต่อให้ไม่ใช่คนฟังเพลงก็น่าจะคุ้นหู ต้นกำเนิดของเพลงนี้มาจากเมืองนี้แท้ๆ เหตุเกิดในวันหนึ่งของปี 1971 เมื่อสมาชิกวง Deep Purple ซึ่งปักหลักที่เมืองนี้เพื่อบันทึกเสียงอัลบัม Machine Head ที่เป็นชุดขายดีที่สุดตลอดกาลของวง (อีกเพลงหนึ่งที่ดังมากจากอัลบัมชุดนี้คือ Highway Star) คืนนั้นพวกเขาไปดูการแสดงของ Frank Zappa เพื่อนร่วมวงการที่คาสิโน ปรากฏว่าเกิดไฟไหม้ ทำให้ต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกมานั่งดูความหายนะอยู่ด้านนอก การที่ควันไฟลอยเหนือคาสิโนที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทำให้เกิดเป็นวลี "Smoke on the water, fire in the sky" ที่เป็นท่อนสร้อยของเพลง ซึ่งหากใครไม่รู้ที่มาของเพลงอาจจินตนาการไปเหมือนเพลง "หมอกและควัน" ของพี่เบิร์ดไปซะงั้น

5. ไร่องุ่นลาโว (Lavaux vineyards)

เคยได้ยินไหมว่าไร่ไวน์ก็สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยูเนสโก้มอบสถานะมรดกโลกให้ได้ ที่นี่คือบทพิสูจน์ ลาโวเป็นดินแดนที่ว่ากันว่าได้รับแสงอาทิตย์ถึง 3 ดวง นั่นคือจากดวงอาทิตย์ของจริงหนึ่ง จากแสงอาทิตย์ที่สะท้อนขึ้นมาจากทะเลสาบอีกหนึ่ง และจากแนวกำแพงหินกั้นดินถล่มที่ดูดซับความร้อนจากแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันและคลายออกมา ทำให้ผลองุ่นที่นี่สุกเต็มและมีผลต่อรสชาติของไวน์ให้เป็นเอกลักษณ์ ถึงแม้สวิตเซอร์แลนด์จะไม่ขึ้นชื่อเรื่องเหล้าองุ่นเท่ากับประเทศอาณาเขตติดกันอย่างฝรั่งเศสหรืออิตาลี แต่หากได้มาเยือนที่นี่ คอไวน์ไหนเลยจะพลาดได้ นอกจากความอร่อยไม่ซ้ำใครของไวน์แล้ว ในด้านการท่องเที่ยวมันก็เป็นทิวทัศน์อันงดงามของไร่องุ่นริมทะเลสาบที่เราสามารถเดิน (ถ้าไหว) หรือขี่จักรยานบนเส้นทางที่ทอดยาวจากมงเทรอซ์ไปถึงเมืองโลซานน์ได้

มงเทรอซ์ เมืองตากอากาศสุดหรูริมทะเลสาบเจนีวา จึงไม่ใช่เมืองแค่ทางผ่านหรืออย่างมากก็แค่แวะชมปราสาท มิฉะนั้นกลับบ้านไปแล้วจะเสียดายต้องมาซ้ำอีก มาเที่ยวย่านนี้ทั้งทีอย่าลืมแวะและให้เวลากับมันให้คุ้มค่า

หาทัวร์สวิตเซอร์แลนด์เที่ยวเมืองมงเทรอซ์ได้ง่ายๆ แค่คลิกที่นี่ รวมทัวร์มากมายจาก 10 บริษัทชั้นนำมาไว้ในที่เดียว