10 ห้ามพลาด ฮอกไกโดหน้าร้อน

ฮอกไกโดฮ๊อตมากช่วงหน้าหนาวเพราะเป็นสวรรค์ของนักเล่นสกีโดยไม่ต้องไปถึงยุโรป แล้วยังมีเทศกาลหิมะน่าตื่นตาหลายรายการ แต่ถ้าใครคิดว่าหน้าอื่นๆ ฮอกไกโดจะสิ้นมนต์สเน่ห์ก็ต้องคิดใหม่ เพราะหน้าร้อน เกาะทางตอนเหนือของญี่ปุ่นก็กลับมาคึกคักอีกครั้งด้วยดอกไม้นานาพันธุ์โดยเฉพาะดอกลาเวนเดอร์ โพย 10 ห้ามพลาดสำหรับฮอกไกโดหน้าร้อนจึงต่างจากหน้าหนาวค่อนข้างมาก ตัดกิจกรรมเกี่ยวกับหิมะความหนาวเย็นออกไปแล้วมาหาสีสันความหอมหวลในหน้าร้อนด้วย 10 สิ่งนี้กัน Let’s Go!

(หาทัวร์ฮอกไกโด พาเที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์แบบลิงค์เดียวจบ คลิกที่นี่)

1. ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm)

ฤดูอื่นไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ แต่ถ้าเป็นฤดูร้อนเมื่อไหร่ โดยเฉพาะช่วงปลายกรกฏาคมถึงสิงหาคม ฟาร์มแห่งนี้จะกลายเป็นสีม่วงอร่ามด้วยดอกลาเวนเดอร์เป็นทิวแถว โดยไม่จำเป็นต้องบินไปไกลถึงประเทศฝรั่งเศส แถมอากาศหน้าร้อนก็ไม่ระอุเท่าที่โน่น ฟาร์มแห่งนี้อยู่ในเมืองฟูราโนะ (Furano) อยู่ห่างจากซัปโปโรไปทางตะวันออกราว 110 ก.ม.

เครดิตภาพ www.asahi.com

2. สวนชิคิไซโนะโอกะ (Shikisai-no-oka)

ไหนๆ จะอินกับทุ่งดอกไม้แล้ว มาถึงฮอกไกโดทั้งทีควรจัดสวนที่สองเข้าไปด้วย ชื่อของสวนแห่งนี้แปลว่าสีสรรแห่ง 4 ฤดู จะเห็นดอกไม้เป็นทิวแถวอยู่บนเนินเหมือนภูเขาหลากสี ยกขึ้นเป็นฉากหลังซึ่งอลังกว่าแค่อยู่บนพื้นราบแน่นอน สวนใหญ่ขนาด 7 เฮคเตอร์แห่งนี้อยู่ทางใต้ของเมืองบิเอะ ซึ่งไม่ห่างจากฟาร์มโทมิตะ มาถึงทั้งทีควบ 2 สวนสวยได้ในวัันเดียว

ที่มาของภาพ www.snowtomamu.jp/summer/en/unkai/

3. ระเบียงสวรรค์ (Unkai Terrace)

ถ้าอยากรู้สึกเหมือนเป็นนางฟ้าหรือเทวดาสักครั้งในชีวิต รีบหาโอกาสขึ้นไปยืนเหนือทะเลเมฆได้ที่ Unkai Terrace ซึ่งสามารถขึ้นกระเช้าได้จากบริเวณของโรงแรม Hoshino Resorts Tonamu แต่เนื่องจากการชมอย่างสมบูรณ์จะต้องเป็นช่วงเช้ามาก (กระเช้าเปิดให้ขึ้นตี 5 ถึง 8:00 เท่านั้น) จึงหนีไม่พ้นต้องไปพักค้างคืนเพื่อตั้งหลักที่รีสอร์ตแห่งนี้ ซึ่งปรากฏการณ์อันน่าตื่นตานี้จะมาในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น

ดูข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับ Unkai Terrace ได้ที่นี่

ที่มาของภาพ http://takinoreien.com

4. เนินเขาพระพุทธเจ้า (Hill of the Buddha) เนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูปมีความสูงถึง 13.5 เมตรและมีน้ำหนัก 1500 ตันแห่งนี้เป็นงานสร้างสรรค์ของสถาปนิกชื่อ ทาดาโอะ อันโดะ (Tadao Ando) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองซัปโปโร เมื่อมองจากระยะไกลจะเห็นเพียงเศียรของพระพุทธพ้นจากส่วนที่เป็นเนิน ความพิเศษที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ห้ามพลาดในช่วงฤดูร้อนก็คือต้นลาเวนเดอร์จำนวนกว่า 150,000 ต้นล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูป จากที่น่าเที่ยวอยู่แล้วจึงขยับมาติดอันดับท๊อปห้ามพลาดของการเที่ยวฮอกไกโดช่วงหน้าร้อนนี่เอง

5. เมืองซัปโปโร (Sapporo)

ไม่ว่าจะหน้าไหนก็หนีไม่พ้นต้องมาจอดที่เมืองหน้าด่านแห่งฮอกไกโด ทั้งด้านความจำเป็นเพราะใกล้สนามบิน แต่ก็มีที่เที่ยวโดดเด่นในตัวมันเอง สถานที่ควรแวะชมในเมืองนี้ได้แก่ทำเนียบรัฐบาลเก่า หอนาฬิกาโบราณ สวนโอโดริ หรือช็อปปิ้งเมามันที่ถนนคนเดินทานุกิโคจิ กับย่านซูซูกิโนะ และที่ห้ามพลาดอีกข้อคือบุฟเฟต์ขาปูยักษ์ซึ่งไม่มีโปรแกรมทัวร์ไหนจะไม่พาไป (ยกเว้นทัวร์ที่ราคาถูกมากๆ) บางโปรแกรมทัวร์ก็พาไปจุดชมวิวบนเขาโมอิวะด้วยนะ

6. โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)

แหล่งผลิตช็อกโกแล็ตดังยี่ห้อ Shiroi Koibito ของบริษัทอิชิยะ (Ishiya Chocolate Factory) ที่ใครๆ ก็ต้องซื้อกลับบ้าน ที่นี่เป็นทั้งโรงงานและธีมปาร์ค แต่ทัวร์ส่วนมากจะไม่รวมค่าเข้าชมด้านใน ซึ่งสิ่งที่ขาดไปคือไม่ได้เห็นกระบวนการผลิตที่มีพนักงานกำลังทำงานจริง และไม่ได้นั่งคาเฟ่จิบชาทานขนมเค้กสวยหรูจากชั้นบน โรงงานนี้อยู่ชานเมืองซัปโปโรไปทางตะวันตกทิศทางไปเมืองโอตารุ จึงสังเกตุได้ว่าโปรแกรมทัวร์ฮอกไกโดมักพาแวะที่นี่ระหว่างการเดินทางระหว่าง 2 เมืองนี้เสมอ

7. เมืองโอตารุ (Otaru) 

เมืองโรแมนติกที่หากใครมาเที่ยวฮอกไกโดมักจะไม่พลาด ทั้งคลองโบราณที่เป็นสัญญลักษณ์ของเมือง ทั้งนาฬิกาไอน้ำที่เป็นหนึ่งในสองของโลกที่ยังเหลือใช้งานได้อยู่ ทั้งพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี และถนนช็อปปิ้งที่มีของกินร้านกาแฟร้านขนมหวานตลอดสายอย่างเช่น Le Tao อันโด่งดัง อย่างไรก็ตาม การจัดให้โอตารุมาอยู่อันดับ 5 แทนที่จะสูงกว่านี้ก็เพราะในหน้าร้อนเมื่อเส้นทางการเที่ยวจะเอนไปทางตะวันออกของซัปโปโรซึ่งเหล่าสวนดอกไม้จะไปอยู่ทิศนั้นกัน ทำให้หลายโปรแกรมทัวร์ที่ระดับพรีเมียมไม่ยอมออกซ้ายไปโอตารุ เพราะเน้นใช้เวลาเต็มที่ในโซนตะวันออก ทำให้เที่ยวเจาะลึกมากขึ้นแทนที่จะข้ามฟากไปมา ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้น่าจะออกแบบมาสำหรับผู้ที่เคยมาฮอกไกโดแล้ว

8. บ่อน้ำสีฟ้า (Blue Pond)

ชื่อจริงคือสระอะโออิเคะ(Aoiike) หรือสระน้ำสีฟ้า(Blue Pond) อยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบิเอะ สีฟ้าที่เห็นเกิดจากแร่ธาตุตามธรรมชาติ ด้วยความสวยงามตามธรรมชาติทำให้เป็นที่เที่ยวยอดนิยมและเดินทางสะดวกสำหรับผู้ที่แวะไปชมทุ่งลาเวนเดอร์เพราะเมืองบิเอะอยู่ติดกับฟูราโนะนั่นเอง

เครดิตภาพ chefsanjeevkapoor.blogspot.com

9. บุฟเฟต์ยูบาริเมล่อน

ผลไม้ขึ้นชื่อแห่งฮอกไกโดในหน้าร้อนคือเมล่อน และที่เป็นแหล่งปลูกชั้นดีคือเมืองยูบาริ เมล่อนจากยูบาริจึงเป็นที่ต้องลิ้มลอง หากมาเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนทั้งทีจะพลาดได้อย่างไร และไหนๆ ก็มาแล้ว จะชิมเล็กๆ น้อยๆ ก็เสียเที่ยว จึงมีร้านให้ทานเมลอนแบบไม่อั้นอย่างเช่นร้าน Melon Terrace ที่เมืองยูบารินั่นเอง หลายๆ โปรแกรมทัวร์ (ที่ราคาพรีเมียม) ก็จัดบุฟเฟต์ยูบาริลงโปรแกรมกันแล้ว

10. บุฟเฟต์ขาปูยักษ์

มาถึงฮอกไกโดไหนเลยจะพลาดการลิ้มลองขาปูยักษ์ ทุกโปรแกรมทัวร์มักจะต้องมีรายการนี้ไม่งั้นจะขายสู้คนอื่นไม่ได้ เราจะได้ชิมขาปูยักษ์ 3 ชนิดแบบไม่อั้น (ร้านดังขวัญใจคนไทยจะมีน้ำจิ้มซีฟู๊ดแบบไทยให้ด้วย) แล้วยังมีซีฟู๊ดอย่างหอยเชลล์ยักษ์ กุ้งหอยปูปลา เนื้อเด็ดๆ ลืมอ้วนกันไปเลย แต่ทานเสร็จก็จะได้กลิ่นปิ้งย่างติดตัวมาเป็นของแถม

(หาทัวร์ฮอกไกโด พาเที่ยวทุ่งลาเวนเดอร์แบบลิงค์เดียวจบ คลิกที่นี่)

Let's Go ชัวร์เรื่องเที่ยว เชี่ยวเรื่องทัวร์

#ทัวร์ญี่ปุ่นฮอกไกโด #ทัวร์ฮอกไกโด #ทัวร์ฮอกไกโด #ทัวร์ฮอกไกโด2562 ##ทัวร์ฮอกไกโดลดราคา #ทัวร์ฮอกไกโดหน้าร้อน #ทัวร์ฮอกไกโดหน้าร้อน2562 #ทัวร์ฮอกไกโดลาเวนเดอร์ #ทัวร์ฮอกไกโดลาเวนเดอร์2562 #ทัวร์ฮอกไกโดราคาถูก #ทัวร์ฮอกไกโดโปรโมชั่น #ทัวร์ฮอกไกโดเทียบสเปค #เทียบสเปคทัวร์ฮอกไกโด #เทียบสเปคทัวร์